อยู่เมืองไทยในช่วงนี้ฝนก็ตกแฉะไปหมด หลายคนคงกำลังวางแผนที่จะเดินทางไปเที่ยวหลบฝนกันหลายประเทศ ซึ่งหนึ่งในตัวเลือกนั้นต้องเป็นดินแดนอาทิตย์อุทัย ต้นกำเนิดดอกซากุระอย่าง “ประเทศญี่ปุ่น” แน่นอน เพราะด้วยอากาศที่เย็นสบาย รวมทั้งวัฒนธรรมที่แตกต่างจากบ้านเรา ทำให้ญี่ปุ่นเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่หลายคนคิดอยากจะเดินทางไปเยือน วันนี้ Merc Gears เลยมาแนะนำ 10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ที่เรียกว่าถ้าไปแล้วไม่ได้เที่ยวถือว่าไม่ถึงจ้า ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวจะมีอะไรบ้างนั้น ตามเราเลยจ้า
พระราชวังอิมพีเรียล
พระราชวังอิมพีเรียล แต่เดิมมีชื่อว่า พระราชวังเอะโดะ อีก หนึ่งสถานท่องเที่ยวที่สำคั ญแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ที่เมืองโตเกียว เพราะเป็นสถานที่ประทับของส มเด็จพระจักรพรรดิแห่งราชวง ศ์เมจิ แห่งประเทศญี่ปุ่น เดิมที่นี่เป็นหมู่บ้านประม งเล็กที่ชื่อ เอะโดะ ที่ถูกตั้งเป็นฐานที่มั่น รวมทั้งถูกตั้งเป็นศูนย์กลา งของรัฐบาลทหาร ต่อมาได้ขยายเมืองให้ใหญ่ขึ ้น จนมีประชากรและพื้นที่เมือง ขนาดใหญ่มากขึ้น หลังจากนั้นเข้าสู่ยุคปฏิรู ปเมจิ การล้มล้างการปกครองแบบโชกุ นลง จักรพรรดิเมจิจึงย้ายเมืองห ลวงมาที่เอะโดะ และเปลี่ยนชื่อเมืองเป็นโตเ กียวในปัจจุบัน ที่นี่จึงเป็นศูนย์กลางทางก ารปกครองและวัฒนธรรมของประเ ทศ และถูกเปลี่ยนให้เป็นพระราช วังในเวลาต่อมา มีชื่อเรียกว่า พระราชวังอิมพิเรียล ในปัจจุบัน
ซึ่งภายในล้อมรอบด้วยคูเมือ ง ประตูทางเข้าที่งดงาม และป้อมปราการเก่าแก่ตั้งอย ู่ห่างกันเป็นช่วง ๆ ทางเข้าหลักอยู่ใกล้กับนิจู บะชิ สะพานสองชั้น และจะเปิดให้คนภายนอกเข้าชม ตามวาระพิเศษต่าง ๆ สวนตะวันออกฮิงะชิ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั ้งของหอคอยใหญ่ ภายในสวนงดงามไปด้วยดอกไม้ห ลากหลายพันธุ์ และจะผลิบานตามแต่ฤดูกาล เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการ สถานที่พักผ่อนในอุดมคติ
โตเกียวทาวเวอร์
โตเกียว ทาวเวอร์ หอคอย สื่อสารขนาดใหญ่ที่สวยงามมา ก ตั้งอยู่ในเขตมินะโตะ กรุงโตเกียว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มี ชื่อเสียงเพราะใน 1 ปี มีผู้ร่วมเข้าชมถึง 2 ล้าน 5 คน อีกทั้งยังเป็นเหมือนสัญลัก ษณ์เพื่อแสดงถึงอำนาจและอิท ธิพลทางเศรษฐกิจของ โลก เป็นที่ถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศ น์ วิทยุ ซึ่งที่นี่ได้แรงบันดาลใจมา จากหอคอยสูงในปารีส สร้างในสไตล์สถาปัตยกรรมโบร าณแบบญี่ปุ่น ทั้งนี้ โตเกียว ทาวเวอร์ จะเปิดทำการตั้งแต่ 09.00-20.00 น. โดยไม่มีวันหยุด ใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วไ ม่มาเยือนที่นี่ถือว่ามาไม่ ถึงญี่ปุ่นเลย
หมู่บ้านประวัติศาสตร์ชิรา คาวาโกะ
ชิราคาวาโกะ (Shirakawako) หมู่บ้านท่ามกลางหุบเขา ตั้งอยู่ในจังหวัดกิฟุ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมร ดกโลกแห่งที่ 6 ในประเทศญี่ปุ่น เพราะเป็นหมู่บ้านที่มีเอกล ักษณ์โดดเด่น หลังคามุงด้วยฟางข้าว สร้างขึ้นด้วยมือที่เรียกว่ า การสร้างบ้านแบบ กัตโชทสึคุริ (Gassho-zukuri) เป็นบ้านชาวนาโบราณที่มีอาย ุมากกว่า 250 ปี คำว่า “กัสโช” หมายความว่า พนมมือ ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงลักษณะ รูปแบบของบ้านที่มีหลังคามุงด้ วยฟางข้าวชันถึง 60 องศา คล้ายสองมือที่พนมเข้าหากัน มุงแบบลาดลงคล้ายหน้าจั่ว เพื่อให้ทนทานต่อหิมะและลมใ นฤดูหนาว ตัวบ้านมีความยาวประมาณ 18 เมตร และมีความกว้าง 10 เมตร สร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปู ซึ่งบางแห่งสามารถเข้าพักค้ างคืนได้ แถมยังเป็นกิจการที่เปิดภาย ในครัวเรือนที่เปิดให้นักท่ องเที่ยวได้เห็นการ ใช้ชีวิตแบบดั่งเดิมของชาวญ ี่ปุ่นอย่างแท้จริง
ภูเขาฟูจิ
ภูเขาฟูจิ เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ ปุ่น และอาจกล่าวได้ว่าเป็นภูเขา ที่สวยที่สุดในโลก มีความสูงถึง 3,776 เมตร ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดยะมะ นะชิและชิซุโอะกะ และสามารถมองเห็นได้จากโตเก ียวและโยโกฮาม่าในวันที่ท้อ งฟ้าปลอดโปร่ง วิธีที่จะได้เห็นภูเขาฟูจิท ี่ง่ายที่สุด คือ นั่งชมจากรถไฟสายโทไกโดที่ว ิ่งระหว่างเมืองโตเกียวและโ อซาก้า ถ้าคุณนั่งชินกันเซ็นจากโตเ กียวที่มุ่งหน้าไปยังนาโงย่ า เกียวโต และโอซาก้า ช่วงที่จะได้เห็นภูเขาฟูจิ คือ ช่วงสถานีชิน-ฟูจิ หรือประมาณ 40-45 นาที หลังจากออกจากโตเกียว ซึ่งจะมองเห็นได้ทางด้านขวา มือของรถไฟ แต่สำหรับผู้ที่อยากชมภูเขา ฟูจิอย่างเต็มอิ่ม และแวดล้อมด้วยธรรมชาติที่ง ดงามขอเชิญที่ ทะเลสาบทั้งห้า (Fuji Five Lake or Fujigoko) หรือที่ ฮะโกะเนะ ซึ่งเป็นรีสอร์ทบ่อน้ำพุร้อ นและเป็นหนึ่งใน อุทยานแห่งชาติ Fuji-Hakone-Izu
นอกจากนี้ รอบ ๆ ภูเขาฟูจิเต็มไปด้วยธรรมชาต ิอันงดงาม และเป็น อุทยานแห่งชาติฟูจิฮะโกะเนะ อิซุ มีทะเลสาบ 5 แห่ง ได้แก่ ยะมะนะกะโกะ คะวะงุจิโกะ โมโตสุโกะ โชจิโกะ ไซโกะ และมีออนเซนหลายแห่ง ได้แก่ ยะมะนะกะโกะ คะวะงุจิโกะ โอชิโนะโกะ ฯลฯ นับได้ว่า ภูเขาฟูจิ มีอิทธิพลต่อศิลปวัฒนธรรมขอ งญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีชื่อภูเขาปรากฏอยู่ในบทกล อนญี่ปุ่นหรือภาพพิมพ์ญี่ปุ ่น และทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นชื ่อบริษัท ชื่อสินค้า และอื่น ๆ อีกมากมาย ล้วนตั้งชื่อว่า ฟูจิ เรียกว่าภูเขาฟูจินี้เป็นหั วใจของญี่ปุ่นก็ว่าได้
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ของทุกปี เป็นช่วงที่ภูเขาฟูจิเปิดอย ่างเป็นทางการให้นักท่องเที ่ยวได้ขึ้นไปปีน
ช้อปปิ้งย่านสุดฮิตที่ย่าน ชินจูกุ ฮาราจูกุ โอไดบะ
เมื่อมาเที่ยวที่ญี่ปุ่น อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ ก็คือ การช้อปปิ้ง ซึ่งที่ญี่ปุ่นก็มีแหล่งช้อ ปที่หลายหลาย แต่ที่ไม่ควรพลาดเลย คือ ย่านชินจุกุ (Shinjuku) แหล่ง ท่องเที่ยวทันสมัยฝั่งตะวัน ตกของโตเกียว นับเป็นแหล่งช้อปปิ้งและสถา นบันเทิงยามค่ำคืนยอดนิยมที ่มีชื่อเสียง โดยยามกลางวันสามารถแวะชมสว นสาธารณะชินจุกุเกียวเอ็นที ่เงียบสงบ, ย่านชิบุยะ (Shibuya) เป็นศูนย์กลางแฟชั่นและวัฒนธร รมสมัยใหม่ของวัยรุ่น ใกล้กับ ศาลเจ้าเมจิ ที่เงียบสงบ ติดต่อกันเป็นแหล่งช้อปปิ้ง ยอดนิยมและสวรรค์ของคนรุ่นใ หม่ คือ ย่านฮาราจูกุ และ ย่านโอไดบะ ที่ สร้างขึ้นจากการถมทะเลในอ่า วโตเกียว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิ ยมของเหล่านักท่องเที่ยวรุ่ นใหม่ เพราะที่นี่มีทั้งแหล่งบันเ ทิงขนาดใหญ่ ชิงช้าสวรรค์ใหญ่ที่สุดแห่ง หนึ่งของโลก ที่เป็นสัญลักษณ์ของเรนโบว์ ทาวน์ ที่เหล่าคู่รักวัยรุ่นนิยมข ึ้นชิงช้าชมวิวทิวทัศน์ยามค ่ำคืนที่สวยงาม
โอซาก้า
เมืองโอซาก้า (Osaka) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดอันด ับสามของญี่ปุ่น และเป็นศูนย์รวมทางเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมสำหรับญี่ปุ่น ตะวันตก ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำโยโดะ มีคลองที่เชื่อมโยงกันไปมาภ ายใต้ถนนหลายเส้น ซึ่งนั่นเป็นปัจจัยสำคัญที่ นำความเจริญก้าวหน้ามาสู่เม ือง และในฐานะที่เป็นเมืองดั้งเ ดิมจึงมีความภาคภูมิใจที่ได ้เป็นต้นแบบของ ละครหุ่นกระบอกบุนระคุ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังไม่ควรพลาด ชม อ่าวโอซาก้า ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางความทันส มัยที่สุด และสวนสนุก Universal Studios Japan
แต่ที่พลาดไม่ได้อย่างยิ่ง คือ ปราสาทโอซาก้า ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นปราสา ทที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นในปี 1586 โดย โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ปัจจุบันเป็นป้อมปราการสูงห ้าชั้น จำลองแบบจากของเดิม เก็บรักษาศิลปวัตถุโบราณหลา ยชิ้น ทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับ ตระกูลโทโยโทมิและโอซาก้าใน อดีต สำหรับแหล่งบันเทิงและย่านช ้อปปิ้งที่จะต้องแวะ คือ ย่านอุเมะดะ และ ย่านนัมบะ ที่มีสถานีรถไฟและศูนย์การค ้าใต้ดินที่ทันสมัยอยู่จำนว นมาก สำหรับนักจับจ่ายซื้อของและ นักชิมอาหาร “คุอุดะโอะเระ” ถนนนักชิมที่มีชื่อเสียงสมค ำเล่าลือ ที่ว่าโอซาก้าเป็นเมืองสำหร ับนักชิมอย่างแท้จริง อาหารขึ้นชื่อของที่นี่ เช่น ยากินิกุ, ซูชิ และทาโกะยากิ
ปราสาทฮิเมะจิ
ปราสาทฮิเมะจิ (Himeji Castle) ตั้งอยู่เมืองฮิเมะจิ เป็นปราสาทที่สวยที่สุดอีกแ ห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ที่ยังคงรักษาไว้เป็นสมบัติ ของชาติ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็ นมรดกโลก พร้อมทั้งได้มีการปิดเพื่อท ำการปฏิสังขรณ์เป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2009-2014 แต่นักท่องเที่ยวสามารถเข้า ชมภายในและชมกระบวนการซ่อมแ ซมได้อย่างใกล้ชิด
ปราสาทฮิเมะจิ เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญเพ ราะเป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่า แก่ ที่เหลือสุดรอดมาจากยุคสงคราม และได้รับการรับรองจากยูเนส โกให้เป็นมรดกโลก เพราะยังคงความเป็นเอกลักษณ ์ สถาปัตยกรรม และยุทโธปกรณ์ครบตามแบบของป ราสาทญี่ปุ่น ทั้งฐานหินสูง กำแพงสีขาว และอาคารต่าง ๆ ในบริเวณปราสาท ถือได้ว่าเป็นมาตรฐานตามแบบ ของปราสาทญี่ปุ่น
อีกทั้งรอบ ๆ ปราสาทยังมีเครื่องป้องกันอ ีกมากมาย เช่น ช่องใส่ปืนใหญ่ รูสำหรับโยนหินออกนอกปราสาท และลักษณะที่เด่นชัดของปราส าทนี้ คือ ทางเดินสู่อาคารหลักซึ่งสลั บซับซ้อนราวกับเขาวงกต ทั้งประตูและกำแพงในปราสาทไ ด้รับการออกแบบมาอย่างดีเพื ่อป้องกันศัตรูไม่ให้ บุกรุกเข้าถึงได้โดยง่าย โดยทางเดินมีลักษณะเป็นวงก้ นหอยรอบ ๆ อาคารหลัก และระหว่างทางก็จะพบทางตันอ ีกมากมาย และจนทุกวันนี้ปราสาทฮิเมะจ ิก็ยังไม่เคยถูกโจมตีเลย ระบบการป้องกันต่าง ๆ จึงยังไม่เคยถูกใช้งาน
วัดโทไดจิ
วัดโทไดจิ (Todaiji Temple) วัดพุทธที่สำคัญและเก่าแก่ท ี่สุดของเมืองนารา ได้ชื่อว่าเป็นสิ่งก่อสร้าง ด้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเ บียนเป็นมรดกโลกร่วมกับศาลเ จ้าและสถานที่สำคัญ ของเมืองนาราอีก 7 แห่ง ภายในวัดมี หอไดบุทสึ (Daibutsuden) หรือ วิหารไม้ที่ได้ชื่อว่าใหญ่ท ี่สุดในโลก เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ไดบุทสึหล่อสำริดขนาดใหญ่ สูง 14.98 เมตร น้ำหนักราว 500 ตัน หล่อโดยช่างสมัยเท็มเปียว (729-764)
ฮอกไกโด
ฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นเกาะใหญ่ที่สุดของ ญี่ปุ่น ถือเป็นสวรรค์ของธรรมชาติ สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปี มีธรรมชาติที่ยังไม่ถูกทำลา ย ทั้งภูเขา ที่ราบสูง แม่น้ำ ทะเลสาบ บ่อน้ำพุร้อน และชายฝั่งทะเล มีอากาศหนาวเย็นในฤดูหนาว มีหิมะที่ขาวละเอียดดุจแป้ง ฝุ่นและสกีรีสอร์ท ที่ดึงดูดนักเล่นสกีจากทั่ว โลก ขณะที่ในฤดูใบไม้ผลิ ซากุระจะบานช้ากว่าภูมิภาคอ ื่นในญี่ปุ่น สามารถชมซากุระได้ในช่วงต้น เดือนพฤษภาคม ส่วนฤดูร้อนอากาศจะไม่ร้อนเหม ือนส่วนอื่น ๆ เพราะมีทุ่งดอกไม้ต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่าง สูง และในฤดูใบไม้ร่วงใบไม้จะเป ลี่ยนสีก่อนที่อื่น ๆ ในประเทศญี่ปุ่นเริ่มตั้งแต ่กลางเดือนกันยายนจนถึงตุลา คม
โดยมี เมืองซัปโปโร (Sapporo) เป็น เมืองหลวงของฮอกไกโด ซึ่งในซัปโปโรมี สวนสาธารณะโอโดริ ซึ่งเป็นที่จัดแสดงงานเทศกา ลหิมะที่มีชื่อเสียง สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจ ากทั่วโลกเข้ามาชมงานในเดือ นกุมภาพันธ์ของทุกปี นอกจากนี้ ยังมีหอนาฬิกาอันเก่าแก่ และที่ว่าการเมืองฮอกไกโด อีกทั้งย่านร้านค้าซุซุกิโน ะ ซึ่งเป็นศูนย์การค้า และแหล่งจับจ่ายซื้อของที่ม ีชื่อเสียงของเมืองนี้
เมืองฮะโกะดะเตะ (Hakodate) เป็นเมืองท่าชายทะเลที่สำคั ญ ที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของฮอก ไกโด ในยามเช้าสามารถเที่ยวตลาดส ดขายอาหารทะเลสด ๆ ที่มีให้ชิม ยามสายเที่ยวชมโบสถ์ และป้อมปราการโบราณในเมือง ยามเย็นนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ ้นไปบนเขาฮะโกะดะเตะ ชมทิวทัศน์ยามราตรีที่สวยงา มได้รอบทิศ ด้านเมืองอะซะฮิกะวะ (Asahikawa) ตั้งอยู่ใจกลางเกาะไปทางทิศ ตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง ซัปโปโร ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งช ั่วโมงครึ่งโดยรถไฟด่วนจากเ มืองซัปโปโร และจากเมืองอะซะฮิกะวะไปทาง ตะวันออกจะมี อุทยานแห่งชาติไดเซะทสุซัง ซึ่งมี บ่อน้ำแร่โซอุนเกียว ให้เพลิดเพลินในฤดูใบไม้เปล ี่ยนสี
นอกจากนี้ ฮอกไกโดยังมีธรรมชาติอันสวย งามที่เป็นชายฝั่งทะเลใกล้ เมืองอะบะชิริ (Abashiri) มีธารน้ำแข็งให้ชมในฤดูหนาว และ คาบสมุทรชิเระโตะโกะ (Shiretoko) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป ็นมรดกโลกทางธรรมชาติด้วย อีกทั้งทะเลสาบอะคัง ทะเลสาบมาชูและ ทะเลสาบคุชิโระ และทางตะวันตกของฮอกไกโดมี เมืองโอะตะรุ (Otaru) เป็นเมืองท่าที่เคยเจริญรุ่ งเรืองในฐานะเมืองค้าขาย ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 รอบ ๆ เมืองจะมีคลองโอะตะรุ เป็นโบราณสถาน แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่ งเรืองในสมัยบุกเบิก มีถนนร้านซูชิที่สดที่สุดใน โลกให้ลองลิ้มชิมรส